อำเภอป่าติ้ว

เขตการปกครอง

อำเภอป่าติ้ว ประกอบด้วย ๕ ตำบล ๕๗ หมู่บ้าน

๑. โพธิ์ไทร (Pho Sai)   ๑๒   หมู่บ้าน
๒. กระจาย (Krachai)   ๑๓   หมู่บ้าน
๓. โคกนาโก (Krachai)   ๑๖   หมู่บ้าน
๔. เชียงเพ็ง (Chiang Pheng)    ๗    หมู่บ้าน
๕. ศรีฐาน (Si Than)    ๙    หมู่บ้าน

จังหวัดยโสธร แบ่งเขตการปกครอง ออกเป็น ๙ อำเภอ ได้แก่

อำเภอเมืองยโสธร อำเภอเลิงนกทา อำเภอไทยเจริญ อำเภอกุดชุม อำเภอทรายมูล
อำเภอป่าติ้ว อำเภอคำเขื่อนแก้ว อำเภอมหาชนะชัย อำเภอค้อวัง

 

ที่ตั้งและอาณาเขต

อำเภอป่าติ้ว อยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดยโสธร อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๒๙ กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ ๓๐๘ ตารางกิโลเมตร หรือ ๑๙๒,๕๐๐ ไร่ โดยมีอาณาเขตติดต่อกับเขตปกครองอื่นๆ ดังนี้

ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอกุดชุม และอำเภอไทยเจริญ (จังหวัดยโสธร)
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเมืองอำนาจเจริญ และอำเภอหัวตะพาน (จังหวัดอำนาจเจริญ)
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอคำเขื่อนแก้ว (จังหวัดยโสธร)
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเมืองยโสธร และอำเภอกุดชุม (จังหวัดยโสธร)

 

ประวัติความเป็นมา

เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๓๒ ภายหลังที่ไทยได้เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศสแล้ว มีคนลาวอพยพมาทางภาคอีสานเป็นจำนวนมาก และคนภายในก็อพยพเลือกถิ่นฐานที่อยู่ใหม่ โดยอพยพมาจากบ้านถิ่น (อาฮาม) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของที่ตั้งที่ว่าการอำเภอป่าติ้ว ปัจจุบันห่างไปประมาณ ๓ กิโลเมตร มาตั้งบ้านใหม่ชื่อว่า บ้านป่าติ้ว มีคนอพยพมาเพิ่มอีก

ต่อมาในราว ปี พ.ศ. ๒๔๗๖ (หลังจากตั้งหมู่บ้านมาได้ประมาณ ๔๐ ปี) กรมทางหลวงแผ่นดินได้ตัดถนนอรุณประเสริฐเชื่อมระหว่างอำเภอยะโสธร-อำเภออำนาจเจริญ-อำเภอเขมราฐ ผ่านหมู่บ้านป่าติ้ว พระอุปัชฌาย์บุญมา เจ้าอาวาสวัดบ้านป่าติ้วเก่า ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านใหม่ พิจารณาเห็นว่า หมู่บ้านนี้เป็นที่อับไม่มีถนนหนทางที่จะเจริญขึ้นได้ จึงชักชวนราษฏรบ้านป่าติ้วเก่าอพยพมาอยู่สมทบและได้สร้างวัดขึ้นใหม่ชื่อว่า วัดโพธาบัลลังค์ (วัดป่าสุริยาลัย) ตั้งแต่นั้นมาหมู่บ้านนี้ก็ขยายใหญ่ขึ้น เนื่องจากหมู่บ้านนี้เป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้านอื่นๆ และการคมนาคมก็สะดวก จึงเกิดศูนย์กลางการค้ารายย่อย ๆ จนเป็นที่รู้จักทั่วไป และเมื่อมีความเจริญขึ้นเรื่อยๆ ทางราชการจึงจัดตั้งเป็นหมู่บ้าน หมู่ที่ ๔ ตำบลโพธิ์ไทร อยู่ในความปกครองของอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากตัวอำเภอประมาณ ๓๐ กิโลเมตร การไปติดต่อกับอำเภอต้องเดินด้วยเท้าหรือเกวียน หรือถ้าจะโดยสารรถยนต์ก็ต้องเดินทางไปอำเภอยะโสธรก่อน และจึงต่อรถไปยังอำเภอคำเขื่อนแก้ว ทำให้ราษฎรได้รับความลำบากเป็นอย่างยิ่ง

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๔ พระครูอุปัชฌาย์บุญมา เปสโร เจ้าอาวาสวัดบ้านป่าติ้ว ซึ่งตอนนั้นได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูโพธาภินันท์ มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลโพธิ์ไทร และเป็นรองเจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้ติดต่อขอตั้งเป็นกิ่งอำเภอที่บ้านป่าติ้ว แยกเอาตำบลโพธิ์ไทร ตำบลกระจาย และตำบลโคกนาโก รวม 3 ตำบล เป็นเขตปกครองก อยู่ประมาณ ๑๕ ปี กระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศตั้งเป็นกิ่งอำเภอป่าติ้ว จังหวัดอุบลราชธานี ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๐๙ และยกฐานะเป็นอำเภอป่าติ้ว จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒

ต่อมาทางราชการได้ประกาศจัดตั้งจังหวัดยโสธร เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๑๕ โดยให้แยกอำเภอยโสธร อำเภอคำเขื่อนแก้ว อำเภอมหาชนะชัย อำเภอกุดชุม อำเภอเลิงนกทา และอำเภอป่าติ้ว รวม ๖ อำเภอ จากจังหวัดอุบลราชธานี อำเภอป่าติ้ว จึงอยู่ในเขตพื้นที่การปกครองของจังหวัดยโสธร นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

คำขวัญ

แตงไทยโต แตงโมหวาน หมอนขวานผ้าขิด
แหล่งผลิตสินค้าพื้นเมือง ลือเลื่องพระอาฮาม

 

แหล่งข้อมูล

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. อำเภอป่าติ้ว. สืบค้นเมื่อ วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖, จาก: https://kku.world/r5cd4

 

สถานที่ท่องเที่ยว

วัดอาฮาม อำเภอป่าติ้ว

สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์
  • Today's visitors: 12
  • Today's page views: : 22
  • Total visitors : 3,905
  • Total page views: 4,883